วันนี้ รีวิวหนังต่างประเทศ จะเสนอท่านหนังแนวล้างแค้น ที่ดุเดือน ระเบิดสนั่นเมือง โดยจะมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับ เนลส์ เป็นหัวหน้าครอบครัวที่สงบสุขและสันโดษ เขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายทำงานขับรถกวาดหิมะในช่วงฤดูหนาว แต่แล้วลูกชายของเขากลับถูกฆาตกรรมโดยเจ้าพ่อค้ายาเสพติด เมื่อชีวิตที่ไม่มีอะไรจะเสีย เขาได้เลือกเส้นทางแห่งการชำระบาปและการล้างแค้น

หลายคนอ่านพล็อตแล้วคงถอนหายใจว่า เฮ้อ! หนังเลียมล้างแค้นอีกแล้วสินะ.. แต่อยากบอกตรงนี้เลยว่า เฮ้ย! หนังมันไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะมันคือหนังที่ ฮานส์ ปีเตอร์ โมแลนด์ รีเมคจาก In order of disappearance หนังนอร์เวย์ปี 2014 ที่ทั้งโหด แหวะ และเต็มไปด้วยมุกตลกร้ายยากเกินคาดเดา ตัวละครในหนังทุกตัวอยู่ๆก็ตายแบบเราเดาทางไม่ถูก มันเล่นกระทั่งการสวิตช์ สับเปลี่ยนแนวของหนัง จากล้างแค้น ไปเป็นตลกเสียดสีได้แบบหน้าตาเฉย และแม้จะมีกลิ่นอายของหนังพี่น้องโคเอนอย่าง No country for old men แบบติดปลายจมูก แต่ก็ยังมีเอกลักษณ์ในจังหวะการเล่าเรื่องแบบหาตัวจับยากอยู่ดี จนได้หนังบันเทิงที่ไม่คลีเช่ซ้ำซาก เต็มไปด้วยลูกเล่นแสนบันเทิงมากมายเลยเชียวแหละ

เมื่อเรามาพิจารณาชื่อเรื่อง Cold Pursuit นอกจากการพูดถึงการล่าอันแสนเยือกเย็น เย็นชาแล้ว หนังยังเล่นกับสภาพแวดล้อม หิมะ ธารน้ำแข็ง ที่มาเปรียบเปรยกับสัญชาตญาณ-สันดานของมนุษย์ที่มันค่อยๆเปิดเปลือยตัวละครออกมา ตั้งแต่ตัวนีลเองที่กลบความรุนแรงไว้ใต้หิมะหนาขาวโพลนจนกระทั่งการตายของลูกชายได้ทำหน้าที่ไม่ต่างจากรถเลื่อนไถน้ำแข็งเผยสันดานดิบของเขาแบบถึงแก่น ซึ่งหนังวางคาแรกเตอร์ของนีลได้อย่างแยบยลตั้งแต่ต้นเรื่องที่ภรรยาต้องแค่นให้เขาคิดคำกล่าวสุนทรพจน์ขอบคุณในงานมอบรางวัลพลเมืองดีเด่นซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสุขุมประหย้ัดคำพูดของนีลได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งความแค้นเริ่มเพิ่มความเลือดเย็นให้เขาเข้าไปอีก ซึ่งด้วยการที่นีลไม่ใช่คนช่างพูดนี้เองที่ช่วยให้เราเชื่อได้สนิทใจกับการแก้แค้นอันแสนสุดจะโหดและบ้าคลั่งของเขา (แต่กระนั้นก็ยังไม่ทิ้งความเป็นพลเมืองดีมีรางวัลการันตีด้วยการห่อศพด้วยตาข่ายแล้วทิ้งธารน้ำแข็งไม่ให้เป็นขยะรกสภาพแวดล้อมต่อไป 555)

หรือแม้แต่ระดับมหภาคอย่างอาชญากรรมเรื่องยาเสพติดที่แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่อาวุโสข้าราชการที่ทำงานเช้าชามเย็นชาม และพยายามปรามลูกน้องไฟแรงให้ยอมอะลุ่มอะหล่วยหวังให้หิมะมาปกปิดคราบความโสมมของสังคมเอง จนเราเองเริ่มสัมผัสโลกเฉพาะตัวของหนังที่แทบไม่มีที่ยืนให้คนดีได้อย่างชัดเจน และทีละน้อยมันก็ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมนีลถึงต้องออกโรงตามล่าล้างแค้นให้ลูกชายเอง เพราะตั้งแต่ต้นเรื่องเขาก็หมดศรัทธากับระบบยุติธรรมตั้งแต่เจ้าหน้าที่สืบสานสรุปคดีลูกชายของเขาว่าเป็นการเสพย์ยาเกินขนาดแบบไม่มีการไต่สวนอะไรเพิ่มเติมแล้ว

เมื่อเรามาพิจารณาชื่อเรื่อง Cold Pursuit นอกจากการพูดถึงการล่าอันแสนเยือกเย็น เย็นชาแล้ว หนังยังเล่นกับสภาพแวดล้อม หิมะ ธารน้ำแข็ง ที่มาเปรียบเปรยกับสัญชาตญาณ-สันดานของมนุษย์ที่มันค่อยๆเปิดเปลือยตัวละครออกมา ตั้งแต่ตัวนีลเองที่กลบความรุนแรงไว้ใต้หิมะหนาขาวโพลนจนกระทั่งการตายของลูกชายได้ทำหน้าที่ไม่ต่างจากรถเลื่อนไถน้ำแข็งเผยสันดานดิบของเขาแบบถึงแก่น ซึ่งหนังวางคาแรกเตอร์ของนีลได้อย่างแยบยลตั้งแต่ต้นเรื่องที่ภรรยาต้องแค่นให้เขาคิดคำกล่าวสุนทรพจน์ขอบคุณในงานมอบรางวัลพลเมืองดีเด่นซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสุขุมประหย้ัดคำพูดของนีลได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งความแค้นเริ่มเพิ่มความเลือดเย็นให้เขาเข้าไปอีก ซึ่งด้วยการที่นีลไม่ใช่คนช่างพูดนี้เองที่ช่วยให้เราเชื่อได้สนิทใจกับการแก้แค้นอันแสนสุดจะโหดและบ้าคลั่งของเขา (แต่กระนั้นก็ยังไม่ทิ้งความเป็นพลเมืองดีมีรางวัลการันตีด้วยการห่อศพด้วยตาข่ายแล้วทิ้งธารน้ำแข็งไม่ให้เป็นขยะรกสภาพแวดล้อมต่อไป 555)

หรือแม้แต่ระดับมหภาคอย่างอาชญากรรมเรื่องยาเสพติดที่แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่อาวุโสข้าราชการที่ทำงานเช้าชามเย็นชาม และพยายามปรามลูกน้องไฟแรงให้ยอมอะลุ่มอะหล่วยหวังให้หิมะมาปกปิดคราบความโสมมของสังคมเอง จนเราเองเริ่มสัมผัสโลกเฉพาะตัวของหนังที่แทบไม่มีที่ยืนให้คนดีได้อย่างชัดเจน และทีละน้อยมันก็ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมนีลถึงต้องออกโรงตามล่าล้างแค้นให้ลูกชายเอง เพราะตั้งแต่ต้นเรื่องเขาก็หมดศรัทธากับระบบยุติธรรมตั้งแต่เจ้าหน้าที่สืบสานสรุปคดีลูกชายของเขาว่าเป็นการเสพย์ยาเกินขนาดแบบไม่มีการไต่สวนอะไรเพิ่มเติมแล้ว